5 เทคนิค ฝึกสุนัข ง่ายๆ

วิธีดูแลสัตว์เลี้ยง, สุนัข, หมา

5 เทคนิค ฝึกสุนัข ง่ายๆ

ฝึกสุนัข

สารบัญ

มีคำสั่งสำคัญห้าอย่างที่สุนัขทุกตัวควรรู้: นั่ง คอย หมอบ มา และชิด คำสั่งเหล่านี้จะช่วยให้คุณสื่อสารสิ่งที่ต้องการกับสุนัข โดยเฉพาะการแสดงลำดับการสื่อสารอย่างชัดเจนกับสัตว์เลี้ยง การฝึกสุนัขไม่ว่าจะเพื่อจุดประสงค์ใด จำเป็นต้องมีการฝึกให้สุนัขรู้จักและสามารถทำตามคำสั่งพื้นฐานให้ได้เสียก่อนและผู้ฝึกเองก็ควรใจเย็นและอย่าข้ามขั้นตอนเป็นอันขาด

1. ฝึกสุนัขให้สุนัขนั่ง

เริ่มการฝึกโดยสอนสุนัขให้รู้จักนั่งตามคำสั่ง

การนั่งเป็นรูปแบบของสุนัขที่สื่อถึงความสุภาพ มันเป็นท่าทางโดยธรรมชาติ แสดงว่าสุนัขตัวนั้นไม่ก้าวร้าวและมันเต็มใจที่จะเฝ้ารอ

  • เมื่อคุณย้ำคำสั่ง ‘นั่ง’ สุนัขจะเรียนรู้ว่าเวลาที่มันต้องการอะไรสักอย่าง หรือถ้าคุณกำลังยุ่ง การนั่งรอเป็นสิ่งถูกต้องที่จะทำ
  • เป้าหมายคือให้สุนัขได้เรียนรู้ว่ายามที่คุณออกคำสั่ง ‘นั่ง’ มันเป็นเวลาที่ต้องให้ความสนใจหรือสงบลง
  • ยืนเบื้องหน้าสุนัขของคุณ. คุณจะต้องแสดงความสงบแต่มีพลังแน่วแน่ เรียกความสนใจของสุนัขโดยจ้องตามัน เวลาที่คุณพูดขึ้นว่า “[ชื่อสุนัข], นั่ง,” ให้ถืออาหารเป็นของล่ออยู่เหนือจมูกของมัน
  • เพื่อที่จะมองเห็นของล่อ สุนัขจำต้องผงกหัวขึ้น ซึ่งจะทำให้ก้นของมันลงไปที่พื้น

กล่าวชมเมื่อสุนัขนั่งลง

ทันทีที่มันนั่งลง พูดขึ้นว่า “นั่นแหละ!” แล้วให้ของล่อเป็นรางวัล เป้าหมายคือให้สุนัขเชื่อมโยงการกระทำ คำพูด หรือคำกับรางวัลและคำชม

เปลี่ยนรางวัลเป็นสัญญาณมือ

เมื่อสุนัขได้เรียนรู้คำสั่งด้วยเสียงแล้ว ให้หยุดการช่วยเหลือแล้วเริ่มใช้สัญญาณมือประกอบ เริ่มง่ายๆ โดยการวางฝ่ามือไว้ข้างหน้าหัวสุนัข ตอนที่สั่งว่า “นั่ง” ให้ดึงนิ้วมือขึ้นมากำเป็นกำปั้นหลวมๆ หรือยกขึ้นในท่าตัว J และจบลงโดยฝ่ามือหงายขึ้น

ทำซ้ำจนกระทั่งสุนัขตอบสนองต่อคำสั่งทุกครั้ง

มันอาจจะใช้เวลาบ้าง โดยเฉพาะถ้าคุณฝึกสุนัขโตหรือสุนัขที่หัวทึบ อย่างไรก็ตาม อย่าท้อถอย! มันสำคัญมากต่อความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับสุนัขที่มันต้องทำตามการนำของคุณ นี่จะช่วยให้คุณอยู่ร่วมกันได้ และในที่สุดจะเป็นการทำให้สุนัขมีความปลอดภัยยิ่งขึ้น

เทคนิคฝึกสุนัข

2. สอนสุนัขให้คอย

สอนสุนัขให้ “คอย”

มีคำสั่งบางคำสั่งที่สามารถช่วยชีวิตสุนัขและคำสั่ง “คอย” ก็เป็นหนึ่งในนั้น การทำให้สุนัขไม่เข้าไปยุ่งกับสถานการณ์ที่เป็นอันตราย เพื่อที่จะไม่ปล่อยให้มันเจอปัญหา สามารถทำได้โดยง่ายขึ้นเมื่อคุณฝึกให้สุนัขรู้จักคอยนิ่งๆ

ลูกสุนัขมีความเข้าใจตามสัญชาตญาณว่าจะต้องคอยอยู่นิ่งๆ เวลาที่ถูกข่มขู่และแม่สุนัขจะใช้คำสั่งให้ “คอย” เหมือนกัน ด้วยสัญชาตญาณผนวกกับการเริ่มฝึกแต่เล็กจะช่วยให้คุณฝึกสุนัขให้ทำตามคำสั่งคอยนิ่งๆ ได้ง่ายขึ้น

เริ่มฝึกสุนัขในท่า “นั่ง”

เวลาสุนัขนั่ง ให้ยืนโดยที่มันอยู่ทางข้างซ้ายของคุณมองไปในทิศทางเดียวกัน หลังจากนี้ท่านี้จะถูกอ้างถึงในฐานะท่า ‘ตั้งต้น’

จับปลอกคอสุนัขเอาไว้แล้วพูดว่า “[ชื่อสุนัข] คอย!”

. คุณควรทำเช่นนี้ในขณะที่วางฝ่ามืออยู่เบื้องหน้าสุนัขโดยไม่สัมผัสมัน ปลายนิ้วควรชี้ขึ้นและฝ่ามือควรจะประจัญหน้ากับสุนัข รอสองวินาที ถ้าสุนัขไม่ขยับไปไหน ให้บอกออกมาว่า “ใช่!” แล้วให้รางวัลแก่มัน

ถ้ามันลุกขึ้น ให้บอกว่า “อุ๊บ!” แล้วเริ่มต้นใหม่ เริ่มด้วย “นั่ง” แล้วค่อยออกคำสั่งอีกครั้งให้ “คอย”

ทำซ้ำจนกระทั่งสุนัขของคุณคอยอยู่กับที่อย่างน้อยสิบวินาทีแล้วจึงค่อยชมเชยมัน นี่หมายความว่าคุณอาจจำต้องเริ่มกระบวนการทั้งหมดตั้งแต่ต้นหลายต่อหลายครั้ง

ค่อยๆ เพิ่มจำนวนเวลาที่คุณให้สุนัขคอย.

พอสุนัขเริ่มเรียนรู้คำสั่งนี้ได้ดี คุณก็เริ่มเพิ่มระยะเวลาในขณะที่ค่อยๆ ถอยห่างออกมาตอนที่มันคอย หากสุนัขลุกขึ้นมา ให้ย้อนกลับไปตอนท่านั่งและทำกระบวนการช่วงนี้ซ้ำ จนกระทั่งคุณสามารถเคลื่อนที่ไปมาได้อิสระระหว่างที่สุนัขคอยอยู่นิ่งๆ

คุณควรมีคำสั่งเฉพาะให้สุนัขออกจากคำสั่งคอยอย่างเช่น “โอเค!” หรือ “มานี่” วิธีนี้สุนัขจะรู้ว่าเมื่อไหร่มันถึงขยับตัวได้

3. สอนสุนัขให้หมอบ

สอนสุนัขให้หมอบ

“หมอบ” มักจะใช้รวมกับ “คอย” และตั้งใจให้เป็นคำสั่งที่แรงขึ้น หมอบจะเป็นการหยุดการกระทำทุกอย่างก่อนหน้าที่กำลังทำก่อนออกคำสั่งนี้ ดังนั้นมันจึงมีประโยชน์ในการควบคุมพฤติกรรม

อีกครั้งให้สุนัขเริ่มที่ท่า ‘นั่ง’

เมื่อคุณพูดว่า “[ชื่อสุนัข], หมอบ!,” ให้ยื่นมือซ้ายไปเหนือหัวสุนัข โดยคว่ำฝ่ามือไปที่พื้น ส่วนมือขวาถือรางวัลและลดมือลงไปที่พื้นช้าๆ โดยให้อยู่ใกล้ๆ กับตัวสุนัข

ให้แรงเสริมแก่สุนัขเมื่อมันสามารถทำตามคำสั่งได้สำเร็จ

พอทั้งบั้นท้ายกับศอกของสุนัขแนบลงแตะพื้น ให้พูดว่า “ใช่!” และให้รางวัล มันจะทำให้ในใจของสุนัขเกิดความเชื่อมโยงระหว่างการกระทำกับรางวัล

ทำกระบวนการทั้งหมดซ้ำหลายๆ ครั้ง

การทำซ้ำเป็นกุญแจสำหรับการเรียนรู้และทำตามคำสั่งของสุนัข เป้าหมายคือให้สุนัขได้ทำตามคำสั่งคุณไม่ว่ามันจะกำลังทำอะไรอยู่ในตอนที่คุณออกคำสั่ง ด้วยวิธีนี้ทำให้หากสุนัขกำลังเล่นซุกซนอะไร คุณสามารถหยุดพฤติกรรมนี้ได้อย่างรวดเร็วและได้ผล

ก็เหมือนกับคำสั่งอื่นๆ ถ้าสุนัขไม่ทำตามคำสั่งหรือทำอย่างอื่น ให้เริ่มตั้งแต่ต้นใหม่ จับสุนัขมาอยู่ในท่านั่งอีกครั้งและเริ่มจากแรก

4. สอนสุนัขให้มา

สอนสุนัขให้มาเวลาคุณเรียกมัน

คำสั่ง “มา” รู้จักกันในอีกชื่อว่า “กลับ” ก็เหมือนคำสั่งพื้นฐานอื่นๆ ให้เริ่มโดยสุนัขอยู่ในท่า “นั่ง”

ดึงสุนัขเข้าหาตัวคุณเบาๆ ในระหว่างที่พูดว่า “[ชื่อสุนัข], มา!”

คุณควรทำเช่นนี้ด้วยน้ำเสียงกระตุ้นมากกว่าที่ใช้ในคำสั่งอื่น เพราะคุณต้องการให้สุนัขอยากเข้ามาหาคุณ ออกท่าทางประกอบคำสั่งเพื่อแสดงให้สุนัขเห็นว่าคุณต้องการอะไร

ใช้รางวัลล่อสุนัขเข้ามา

พอคุณได้แสดงให้สุนัขรู้ว่าต้องเข้ามาอย่างไรและคุณจะออกคำสั่งแบบใด ให้วางอาหารสุนัขไว้ตรงเท้าแล้วชี้ให้สุนัขเห็น หลังจากนั้นไม่นาน แค่กิริยาการชี้ไปที่พื้นข้างหน้าคุณก็เพียงพอแล้ว หลังจากนั้น จะใช้เพียงคำสั่งหรือท่าชี้นิ้วอย่างใดอย่างหนึ่งก็ทำให้สุนัขทำตามแล้ว

ส่งเสริมการกระทำด้วยคำชม. เวลาสุนัขเข้ามาหาคุณ ให้ชมมันโดยใช้ประโยคว่า “มาได้ดีมาก!” ตบหัวมันเบาๆ แสดงให้สุนัขรู้ว่าคุณพึงพอใจกับสิ่งที่มันเพิ่งทำลงไป

ฝึกคำสั่งนี้ในเวลาและสถานที่แตกต่างกัน. เวลาเล่นกับสุนัข ใช้โอกาสนี้เรียกมันข้ามห้องโดยใช้ชื่อมันแล้วบอกว่า “มา!” พร้อมกล่าวชมเมื่อมันวิ่งมาถึง นี่จะทำให้สุนัขคุ้นเคยกับคำสั่ง

5. สอนสุนัขให้ชิด

สอนสุนัขให้ “ชิด”

คำสั่งนี้เป็นหนึ่งในคำสั่งที่ซับซ้อนสำหรับจะสอน อย่างไรก็ตาม สุนัขส่วนใหญ่สามารถเรียนรู้ได้ถ้าคุณฝึกอย่างต่อเนื่อง การสอนสุนัขคู่ใจให้ชิดจะช่วยปัญหาเรื่องหลังกับไหล่ของคุณ ช่วยเรื่องต้นคอของสุนัข และให้ทั้งคู่เกิดความภาคภูมิใจ (ถึงแม้สุนัขจะไม่ค่อยใส่ใจในเรื่องความภาคภูมิใจนี้สักเท่าไหร่)

  • โดยธรรมชาติแล้วสุนัขของคุณอาจอยากจะวิ่งเหยาะๆ และอยากจะซอกแซกไปทางโน้นทีทางนี้ที คุณจะต้องแสดงให้มันเห็นว่าบางเวลาก็อนุญาตให้ไปสำรวจโน่นนี่ได้และบางเวลาก็ห้ามทำเช่นนั้น

จับสุนัขมาเริ่มที่ท่านั่ง. ใช้สายจูงปกติ ให้สุนัขอยู่ในท่า “นั่ง” ข้างขาซ้ายของคุณ โดยหันหน้าไปทางเดียวกับคุณ นี่คือท่าที่รู้จันกันในชื่อ ท่า “ตั้งต้น”

  • ให้ใช้ด้านซ้ายเสมอเพื่อป้องกันสุนัขสับสน

บอกสุนัขให้ “ชิด”

พูดว่า”[ชื่อสุนัข], ชิด!” ระหว่างที่ก้าวไปข้างหน้าด้วยเท้าซ้าย การเริ่มต้นด้วยเท้าซ้ายจะกลายเป็นสัญญาณว่าได้เวลาเดินหน้า สุนัขอาจขัดขืนหรือรีบเดินแซงหน้าไป ในกรณีทั้งคู่นี้ให้กระตุกสายจูงรั้งไว้เบาๆ และทวนคำสั่ง “ชิด” ใหม่

แนะนำสุนัขให้อยู่ข้างๆ คุณ. ถ้ามันอยู่ห่างออกไปทางด้านข้าง ให้ตบไปที่ขาของคุณแล้วบอกว่า “ไปพร้อมฉัน!” หรือ “มานี่!” หรือคำสั้นๆ อื่นๆ ให้พูดคำๆ เดิมสำหรับการสื่อความหมายเฉพาะอย่างเสมอ

แก้พฤติกรรมที่ผิด

ถ้าสุนัขเดินแซงไปข้างหน้า พูดว่า “ไม่, [ชื่อสุนัข], ชิด” ด้วยน้ำเสียงนิ่งสงบ ถ้าหากจำเป็นก็ให้กระตุกสายจูงได้ เวลาที่คุณหยุด ให้หยุดด้วยเท้าซ้ายเสมอ และพูดว่า “[ชื่อสุนัข], นั่ง” ถ้าสุนัขเดินนำหน้าอีกแล้ว ให้ดึงเบาๆ หรือสั่งให้มันหยุดข้างเท้าซ้ายคุณโดยใช้คำสั่ง “นั่ง”

  • ถ้าทุกอย่างดูควบคุมไว้ไม่ไหว ให้หยุดแล้วสั่งสุนัขให้อยู่ในท่านั่งข้างคุณอีกครั้งหนึ่ง กล่าวชมเชยแล้วเริ่มต้นใหม่ คุณควรปรับสุนัขให้เข้ากับตำแหน่งของคุณเสมอ ไม่ใช่ปรับตำแหน่งตัวคุณเองให้ไปอยู่ข้างสุนัข (ถ้าคุณปรับไปตามมัน จะกลายเป็นสุนัขได้ฝึกมนุษย์ให้มาเชื่อฟังมันแทน)
  • คุณควรให้สุนัขคุ้นเคยกับการไม่รู้สึกรั้งตึงจากสายจูงเว้นเสียแต่ว่าคุณกำลังแก้ไขพฤติกรรมของมัน มิฉะนั้นสุนัขจะเคยชินกับการถูกสายจูงรั้งไว้ในที่สุด ให้แก้ไขพฤติกรรมโดยใช้เสียงและท่าทาง ให้ใช้สายจูงช่วยเฉพาะตอนที่มันไม่ฟัง

กล่าวชมเชยเวลาที่สุนัขชิด

คุณอาจเอ่ยชมสุนัขเวลาที่มันมาชิดได้ดี แต่ลดระดับความยินดีลงเพื่อไม่ทำให้มันเสียสมาธิ พอมันเริ่มเชื่อฟังเสียงคำสั่งอย่างต่อเนื่องแล้ว ให้เงียบและจะใช้เสียงออกคำสั่งเฉพาะตอนแก้ไขให้ถูกเท่านั้น

  • ระยะเวลาที่ใช้เรียนรู้นั้นขึ้นอยู่กับสุนัขแต่ละตัว ฉะนั้นอย่าเร่งให้รุดหน้าไวๆ

สอนสุนัขให้นั่งเวลาที่คุณหยุดเดิน. เมื่อคุณพร้อมจะหยุดเดิน คุณควรหยุดด้วยเท้าซ้ายและพูดว่า “[ชื่อสุนัข], นั่ง” หลังจากทำซ้ำไม่กี่ครั้งคุณก็น่าจะไม่ต้องใช้คำสั่งนั่งแล้ว สุนัขจะเรียนรู้ว่าการหยุดด้วยเท้าซ้ายคือสัญญาณให้มันหยุดนั่ง

ฝึกคำสั่งผ่านทางท่าทางอย่างเดียว

เมื่อสุนัขเชื่อฟังคำสั่ง “ชิด” ได้ถูกต้องอย่างต่อเนื่อง ให้เริ่มการออกเดินด้วยเท้าซ้ายแบบไม่ทันตั้งตัวและหยุดโดยไม่ต้องออกเสียงสั่งหรือใช้ภาษามือ นอกจากนี้ เมื่อสุนัขอยู่ในท่า “เริ่มต้น” บางครั้งก็ให้ออกเดินด้วยเท้าขวา สุนัขอาจจะอยากตามคุณออกมา ฉะนั้นให้ใช้คำสั่ง “คอย” และเดินอ้อมหลังสุนัขกลับมายังท่า “ตั้งต้น”

  • อีกทางเลือกให้ก้าวเดินด้วยเท้าซ้ายและใช้คำสั่งชิด จากนั้นหยุดเดินด้วยเท้าขวาและใช้คำสั่งคอย หลังจากนั้นไม่นานคุณจะพัฒนาไปถึงขั้นสามารถสลับก้าวเท้าเดินได้ตามสะดวกและย้ำพฤติกรรมของการ “ชิด” หรือ “คอย” ได้ เมื่อคุณกับสุนัขเรียนรู้ได้คล่องแคล่วแล้ว คุณจะสามารถทำงานร่วมกันเป็นทีมได้ราบรื่นไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน

พาเจ้าตูบออกนอกบ้านอย่างไร ไม่ให้มีปัญหา?

บ่อยครั้งที่เจ้าของสุนัขมักจะต้องคิดหนัก เมื่อจะต้องพาสุนัขของตนออกนอกบ้านเพื่อจะไป ณ.สถานที่ที่น้องหมาไม่คุ้นชิน หรือต้องพบปะผู้คนหรือสุนัขแปลกหน้าและสภาพแวดล้อมที่ต่างกันไปจากทุกวัน เพราะสิ่งดังกล่าวจะทำให้สุนัขตื่นกลัวหรืออาจแสดงอาการก้าวร้าวได้ วันนี้ เรามีวิธีปราบพยศเจ้าตูบและควบคุมสถานการณ์เพื่อให้การออกไปนอกบ้านไม่สร้าง ปัญหาให้กับคุณ

รู้หน้าหรือจะสู้ รู้นิสัยจากสายพันธุ์

ก่อนอื่นเจ้าของต้องทำความเข้าใจ ลักษณะนิสัยของสุนัขของตน ที่ถูกถ่ายทอดตามลักษณะสายพันธุ์ ซึ่งโยงไปถึงพฤติกรรมการแสดงออก เช่น สุนัขสายพันธุ์เทอร์เรีย จะมีลักษณะความเป็นผู้นำค่อนข้างสูง ร่าเริง เมื่อต้องเจอสุนัขแปลกหน้า มักชอบที่จะท้าทายสุนัขตัวอื่นเสมอ เมื่อเจอสุนัขที่มีความเป็นผู้นำเหมือนกัน มันจะเกิดอาการข่มขู่หรือวางมวยกันได้ ดังนั้นเจ้าของต้องเรียนรู้ และเข้าใจ ที่สำคัญต้องเบนความสนใจของสุนัขก่อนจะเกิดเหตุตะลุมบอน เช่น ให้สุนัขหันมาสบตากับเจ้าของ ซึ่งนั่นจะทำให้สุนัขสงบลง

ทั้งนี้ลักษณะนิสัยของสุนัขโดยทั่วไป จะไม่ชอบการประจันหน้า อย่างเช่น เวลามีคนเดินเข้าไปหาเขาโดยตรง เขาก็จะคิดว่าเป็นการท้าทาย สุนัขจะกระโจนหรือวิ่งเข้าใส่ เพราะคิดว่าเราคือศัตรู แต่หากเราเข้าไปยืนข้างๆ สุนัขจะรู้สึกได้ว่าเรามาอย่างเป็นมิตร เขาก็จะให้ความเป็นมิตรด้วย

ใช้โทนเสียงสยบพฤติกรรม ห้ามใช้อารมณ์

ในความเป็นจริงแล้ว สุนัขจะไม่เข้าใจในภาษาที่เจ้าของสั่งแต่จะเข้าใจตามโทนเสียงและลักษณะอาการ ที่สั่ง เช่น ถ้าเจ้าของสั่งให้ทำด้วยโทนเสียงราบเรียบ และเมื่อทำตาม เจ้าของกล่าวชื่นชมและลูบตามลำตัวด้วยโทนเสียงสูงสุนัขจะจำ ในขณะที่หากใช้โทนเสียงดัง ต่ำ เมื่อสั่งให้หยุดพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เจ้าตูบจะจดจำทันที ดังนี้นเมื่อหัดให้น้องหมาได้เข้าใจถึงโทนเสียงและอากัปกิริยาที่ต้องการให้เขาทำ เขาจะจำและทำตามทุกครั้ง ดังนั้นการใช้โทนเสียงกับสุนัขควรใช้เสียงที่ค่อนข้างขึงขังและหนักแน่น หากเป็นเสียงที่เปล่งออกมาจากช่องท้องโดยตรงจะยิ่งทำให้เสียงมีพลังในการสั่ง สุนัขจะเชื่อฟังเพราะจะทำให้สุนัขเข้าใจว่าเจ้าของคือนายและสามารถควบคุมเขาได้ แต่ถ้าหากเจ้าของปฏิบัติต่อเขาเหมือนเพื่อน เขาก็จะรู้สึกว่าตัวเองมีความเสมอภาคและเท่าเทียมกัน ดังนั้นเขาก็จะไม่ฟังคำสั่งจากเจ้าของเลย เช่นเดียวกัน เมื่อเจ้าของใช้โทนเสียงสูง สุนัขจะเข้าใจได้ว่าขณะนั้นเจ้าของกำลังมีความสุข เขาก็จะตอบสนองด้วยการกระดิกหาง เพื่อแสดงให้เจ้าของเห็นว่าเขาก็มีความสุขด้วยเช่นกัน

สำหรับใครที่ต้องการสร้างลักษณะนิสัยที่ดีให้แก่สุนัข ต้องการหยุดพฤติกรรมก้าวร้าว แสดงอำนาจเหนือ ไม่ให้ใส่สายจูง ไม่เชื่อฟังคำสั่งของสุนัข แต่ไม่มีเวลาในการฝึกและมีความอดทน หักห้ามใจไม่มากพอ Jojo House Dog Master ยินดีเป็นตัวแทนของคุณในการช่วยสร้างลักษณะนิสัยที่ดีและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมก้าวร้าวของสุนัข เพราะเราเข้าใจจิตวิทยาของสุนัข ทำให้เราสามารถฝึกสุนัขได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยืนยันจากเจ้าของสุนัขที่เคยนำสุนัขมาฝึก, รางวัลและความไว้ใจจากสื่อต่างๆอีกมากมาย

หมา

เคล็ดลับ

  • สุนัขชอบรางวัลและมักมีแรงกระตุ้นได้ดี เช่น ทันทีที่สุนัขนั่งเองเป็นครั้งแรก ให้รางวัลหรือถูบริเวณท้อง เมื่อสุนัขเชื่อมโยงการนั่งกับรางวัลได้ มันก็จะทำตามได้ง่าย
  • ให้ฝึกสุนัขในตอนแรกๆ ในบ้านหรือใช้สายจูงถ้าอยู่นอกบ้านและอยู่ในที่เงียบๆ เพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งรบกวนสุนัข หลังจากมันเรียนรู้คำสั่งได้ดีแล้ว จึงค่อยเริ่มฝึกในสถานที่แตกต่างกันออกไป เพื่อให้สุนัขยังคงรับฟังคำสั่งแม้จะมีสิ่งดึงดูดใจ
  • เป็นการดีถ้าจะฝึกตั้งแต่ยังเป็นลูกสุนัข แต่สุนัขโตแล้วก็ฝึกได้เช่นกัน แต่อาจต้องใช้เวลานานหน่อยในการสลายพฤติกรรมไม่ดีก่อน
  • ให้แน่ใจเสมอว่าการฝึกนั้นไม่ยากเย็นจนเกินไปและสุนัขยังสนุกได้! มิเช่นนั้น สุนัขอาจไม่อยากมีส่วนร่วมกับการฝึกเลย

คำเตือน

  • อย่าแสดงอาการโมโหหรือหงุดหงิดในระหว่างการฝึก มันจะไปทำสุนัขสับสนและรู้สึกกลัว ทำให้การฝึกกลายเป็นประสบการณ์ด้านลบไปสำหรับคุณทั้งสองฝ่าย ถ้าเริ่มโมโห ให้ข้ามไปหรือย้อนกลับไปออกคำสั่งที่สุนัขทำตามได้ดี และให้จบการฝึกในเชิงบวก
  • อย่าปล่อยให้สุนัขเอาเปรียบคุณ ให้ทำกับสุนัขอย่างนุ่มนวลแต่หนักแน่น
  • อย่าเลื่อนหรือหยุดการฝึก สุนัขนั้นจะฝึกง่ายที่สุดตอนยังเป็นลูกสุนัขมากกว่าตอนโตเต็มวัยแล้ว
  • พยายามอย่าให้มีคนหลายคนอยู่ด้วยในระหว่างที่ฝึก ถ้าสุนัขได้ยินเสียงหลายๆ เสียงพร้อมกัน มันจะสับสน
  • อย่าปล่อยสุนัขหลุดจากสายจูงจนกว่ามันจะทำตามคำสั่งได้ถูกต้อง 100% สุนัขแค่ไม่เชื่อฟังคำสั่งหนเดียวและหลุดจากการควบคุมของคุณ คุณถึงจะเข้าใจว่าคุณไม่สามารถบังคับในสิ่งที่คุณไล่จับไม่ได้ คุณจำต้องมีอำนาจบังคับอย่างหนักแน่นก่อนจะสามารถเริ่มปล่อยสุนัขออกเดินโดยไม่ต้องพึ่งสายจูง
  • อย่าตำหนิหรือบังคับสุนัขเวลาที่มันเข้ามาหาคุณตามคำสั่ง ไม่ว่าจะอย่างไรเสมอ! ถึงแม้ว่าสุนัขจะไม่เชื่อฟังคำสั่งก่อนหน้าที่มันจะมา ข้อเท็จจริงก็คือการที่มันเชื่อฟังคำสั่งสุดท้ายของคุณจะเป็นสิ่งเดียวที่เชื่อมโยงกับการทำตามที่บังคับไว้ ไม่งั้นมันจะเป็นการให้สัญญาณที่สับสน

บทความน่าสนใจ 10 สายพันธุ์สุนัข ที่นำไปเลี้ยงแล้วจะมีแต่รอยยิ้ม

อ้างอิงข้อมูลจาก

https://th.wikihow.com

https://www.jojohouse.com

https://www.purina.co.th

ประวัติสายพันธุ์ สุนัขเก็บเหยื่อ

ประวัติสายพันธุ์ สุนัขเก็บเหยื่อ สารบัญประวัติสายพันธุ์ สุนัขเก็บเหยื่อประวัติสายพันธุ์ลักษณะนิสัย สุนัขเก็บเหยื่อ หรือ รีทรีฟเวอร์ (อังกฤษ: Retriever) เป็นประเภทของสุนัข (Dog type) ที่เรียกว่าสุนัขล่าเหยื่อที่มีหน้าที่ไปเก็บเหยื่อที่นักล่าสัตว์ล่าได้...

read more
สาเหตุที่ทำให้สุนัขฉี่เป็นเลือด

สาเหตุที่ทำให้สุนัขฉี่เป็นเลือด

สาเหตุที่ทำให้สุนัขฉี่เป็นเลือด สารบัญสาเหตุที่ทำให้สุนัขฉี่เป็นเลือดปัญหาฉี่เป็นเลือดหรือฉี่ปนเลือด  (Hematuria)อาการสำคัญที่เจ้าของต้องสังเกตสาเหตุเป็นอะไรได้บ้าง1. มีสาเหตุจากทางเดินปัสสาวะส่วนบนไตติดเชื้อนิ่วในไตปัญหาจากไตมะเร็งในไต2....

read more
สุนัขห้ามกินอะไรบ้าง 25 อย่าง

สุนัขห้ามกินอะไรบ้าง 25 อย่าง

สุนัขห้ามกินอะไรบ้าง 25 อย่าง สารบัญสุนัขห้ามกินอะไรบ้าง 25 อย่างทำไมสุนัขไม่ควรรับประทานอาหารเหล่านี้1. ช็อกโกแลต 2. องุ่นและลูกเกด 3. หัวหอมและกระเทียม 4. นมวัว เนย เนยแข็ง และผลิตภัณฑ์จากนมวัวทุกชนิด 5. เบคอนและไส้กรอก 6. ตับย่างและเครื่องในย่าง 7....

read more
ยาถ่ายพยาธิสุนัข ควรใช้เมื่อสุนัขมีอาการดังนี้

ยาถ่ายพยาธิสุนัข ควรใช้เมื่อสุนัขมีอาการดังนี้

ยาถ่ายพยาธิสุนัข ควรใช้เมื่อสุนัขมีอาการดังนี้ สารบัญยาถ่ายพยาธิสุนัข...

read more
สุนัขไอแห้งวิธีรักษา

สุนัขไอแห้งวิธีรักษา

สุนัขไอแห้งวิธีรักษา สารบัญสุนัขไอแห้งวิธีรักษาการไอเหมือนมีอะไรติดคอสาเหตุที่ทำให้สุนัขไอแบบมีเสมหะโรคหลอดลมฝอยอักเสบเรื้อรัง (Chronic bronchitis)การวินิจฉัย การรักษา การรักษาทางยา โรคหลอดลมตีบ (tracheal...

read more
ทรายเต้าหู้แมว ทำมาจากเต้าหู้รึปล่าว

ทรายเต้าหู้แมว ทำมาจากเต้าหู้รึปล่าว

ทรายเต้าหู้แมว ทำมาจากเต้าหู้รึปล่าว สารบัญทรายเต้าหู้แมว ทำมาจากเต้าหู้รึปล่าวทรายแมวเต้าหู้ คืออะไร ?ทรายแมวแบบเต้าหู้ มีคุณสมบัติอย่างไรวิธีการเลือกทรายแมวเต้าหู้1. กลิ่นของทรายแมว2. เช็กให้ดีว่าสามารถทิ้งลงชักโครกได้หรือไม่ ?3. คุณสมบัติในการดูดซับ4....

read more

10 ข้อประโยชน์ของหนวดแมว

10 ข้อประโยชน์ของหนวดแมว สารบัญ10 ข้อประโยชน์ของหนวดแมวหนวดแมวไม่ได้มีไว้แค่ทำให้แมวดูน่ารัก แต่ยังมีประโยชน์ต่อแมวอีกหลายประการ ตั้งแต่ทำหน้าที่เป็นเครื่องวัดระยะ ไปจนช่วยเรื่องการมองระยะใกล้ หนวดเป็นอวัยวะที่น่าทึ่งโดยแท้ทำไมแมวถึงมีหนวด1....

read more
เลี้ยงแมวยังไงให้อยู่กับเราไปนานๆ

เลี้ยงแมวยังไงให้อยู่กับเราไปนานๆ

เลี้ยงแมวยังไงให้อยู่กับเราไปนานๆ สารบัญเลี้ยงแมวยังไงให้อยู่กับเราไปนานๆอายุเฉลี่ยของแมวเลี้ยงแมวอย่างไรให้อายุยืน1. เลือกอาหารการกิน2. ดูแลรูปร่าง3. ทำหมัน4. ทำวัคซีน5. ป้องกันปรสิตอายุของแมวเมื่อนับเป็นปีแบบมนุษย์สัญญาณของความสูงวัยในแมวของคุณอาการของโรคในแมวสูงวัย...

read more
The jungle cat แมวป่านักล่าอันดับ 1 ในป่าใหญ่

The jungle cat แมวป่านักล่าอันดับ 1 ในป่าใหญ่

The jungle cat แมวป่านักล่าอันดับ 1 ในป่าใหญ่ สารบัญThe jungle cat แมวป่านักล่าอันดับ 1 ในป่าใหญ่รูปลักษณ์อุปนิสัยถิ่นที่อยู่อาศัยชีววิทยาภัยที่คุกคามสถานภาพสถานภาพการคุ้มครองประเทศที่ห้ามล่าไม่คุ้มครองนอกพื้นที่อนุรักษ์ มีรูปร่างคล้ายแมวบ้าน...

read more
10 สายพันธุ์แมวที่ทาสมือใหม่ควรรู้

10 สายพันธุ์แมวที่ทาสมือใหม่ควรรู้

10 สายพันธุ์แมวที่ทาสมือใหม่ควรรู้ สารบัญ10 สายพันธุ์แมวที่ทาสมือใหม่ควรรู้สายพันธุ์แมวคืออะไรและมีความสำคัญกับผู้เลี้ยงแมวอย่างไร?ลักษณะพันธุ์แบบใดที่ควรใช้พิจารณาก่อนการรับเลี้ยง?10 สายพันธุ์แมว1. เอ็กโซติกขนสั้น (Exotic Shorthair)2. หางกุดญี่ปุ่น (Japanese...

read more
10 สายพันธุ์ สุนัขล่าเนื้อ ที่ควรรู้จัก

10 สายพันธุ์ สุนัขล่าเนื้อ ที่ควรรู้จัก

10 สายพันธุ์ สุนัขล่าเนื้อ ที่ควรรู้จัก สารบัญ10 สายพันธุ์ สุนัขล่าเนื้อ ที่ควรรู้จักต้นกำเนิดและประวัติสุนัขล่าเนื้อมีสามประเภท โดยมีหลายสายพันธุ์ในแต่ละประเภท ดังนี้10 สายพันธุ์ สุนัขล่าเนื้อ1. บีเกิล (Beagle)2. บาเซนจี (Basenji)3. บลัดฮาวด์ (Bloodhound)4. แด็กซันด์...

read more