ลูกหมาวัยซน ต้องดูแลยังไง

วิธีดูแลสัตว์เลี้ยง, สุนัข, หมา

ลูกหมาวัยซน ต้องดูแลยังไง

ลูกหมาวัยซน ต้องดูแลยังไง

ลูกหมาวัยซน ต้องดูแลยังไง เชื่อว่า หลายคนเลยที่พอเข้าปีใหม่แล้วก็หาน้องหมาตัวใหม่เข้ามาเป็นสมาชิกในครอบครัว ส่วนมากนิยมเลือกน้องหมาวัยกำลังซนมาดูแล ซึ่งช่วงวัยนี้บอกเลยว่า เราต้องคอยดูแลพวกเค้าเป็นพิเศษ ยิ่งถ้าเป็นมือใหม่ที่ไม่เคยเลี้ยงน้องหมามาก่อนแล้วด้วยก็ยิ่งต้องใส่ใจดูแลพวกเค้ามาก ๆ เลยน้า ลูกสุนัขวัยกำลังซนต้องได้รับการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันการติดโรคต่าง ๆ ฝึกเข้าสังคมเพื่อสร้างเสริมนิสัยที่ดี และระมัดระวังเรื่องอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นจากความซุกซน

เตรียมความพร้อมก่อนนำลูกสุนัขมาเลี้ยงในบ้าน

1. จัดเตรียมสถานที่

ก่อนที่นำลูกสุนัขมาเลี้ยง เราควรเตรียมห้องไว้ซักห้องหรือหากไม่มีอาจเป็นมุมหนึ่งในบ้าน โดยมีสิ่งสำคัญคือต้องค่อนข้างเงียบ ไม่มีคนพลุกพล่านหรือเดินผ่านไปมาตลอดเวลาและสะอาด การจัดเตรียมพื้นที่ไว้เป็นสัดส่วนจะช่วยให้เราสามารถดูแลลูกสุนัขได้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยมากขึ้น

2. เตรียมที่นอนและอุปกรณ์จำเป็นต่างๆ

เราควรเตรียมที่นอนไว้ก่อนที่จะรับลูกสุนัขมาเลี้ยง ที่นอนของลูกสุนัขอาจจะเป็นตะกร้าปูด้วยผ้าขนหนูนุ่มๆ หรือจะเป็นที่นอนสำหรับลูกสุนัขโดยเฉพาะที่ขายกันในร้านขายของสัตว์เลี้ยงเลยก็ได้ ร่างกายของลูกสุนัขยังควบคุมอุณหภูมิร่างกายตัวเองไม่ค่อยได้ จึงควรได้รับความอบอุ่นทันที หากในช่วงที่มีอากาศหนาวอาจจะต้องเพิ่มไฟกกเพื่อให้อุณหภูมิสุนัขไม่ลดต่ำมากเกินไป นอกจากนี้อุปกรณ์จำเป็นต่างๆ เช่น ขวดนมสำหรับสุนัข ซึ่งมีขนาดจุกนมที่ไม่ใหญ่เกินไป กรงแบบกระเป๋าเอาไว้พาลูกสุนัขไปหาหมอ และชามอาหาร ชามใส่น้ำ ก็ไม่ควรมองข้าม

3. เตรียมนมและอาหาร

อย่างแรกที่เราควรทราบเลยคือลูกสุนัขห้ามกินนมวัวเด็ดขาด โดยเฉพาะลูกสุนัขที่ยังไม่หย่านมเพราะว่าในน้ำนมวัวมีปริมาณสารอาหารที่ไม่เหมาะกับการเจริญเติบโตในลูกสุนัข และร่างกายลูกสุนัขบางตัวก็ไม่มีเอนไซม์ย่อยแลคโตสซึ่งเป็นน้ำตาลในน้ำนมวัวอีกด้วย จึงอาจทำให้ลูกสุนัขท้องเสีย รวมไปถึงนมผงสำหรับเด็ก นมกล่อง หรือนมข้นหวานก็ห้ามใช้เช่นกัน โดยเราควรเลือกเป็นน้ำนมทดแทนสำหรับลูกสุนัขโดยเฉพาะแทน และอย่าลืมศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับอาหารลูกสุนัข 2 เดือน ไว้เตรียมพร้อมด้วย เพราะเป็นช่วงเวลาที่ลูกสุนัขเริ่มหย่านมและหัดกินอาหารเม็ดแล้วนั่นเอง

4. ประเมินเวลาและค่าใช้จ่าย

การเลี้ยงลูกสุนัขนั้นจำเป็นต้องมีเวลาดูแลค่อนข้างมาก หากตัดสินใจเริ่มต้นรับเลี้ยงลูกสุนัขแล้วเราอาจะต้องแบ่งเวลาหรือตกลงกับสมาชิกในบ้านมาผลัดกันดูแล นอกจากนี้เรื่องค่าใช้จ่ายก็สำคัญเช่นกัน บางคนอาจคิดว่าเลี้ยงสุนัขตัวเดียวไม่น่ามีอะไรมากหรอก แต่จริงๆ แล้วเราต้องเตรียมค่าใช้จ่ายทั้งเรื่องค่าอาหาร ค่าฉีดวัคซีน และอุปกรณ์จำเป็นต่างๆ เมื่อลูกสุนัขโตขึ้นด้วย

5. เตรียมตัวและเตรียมใจ

สุดท้ายก่อนที่เราจะเริ่มเลี้ยงลูกสุนัขซักตัวหนึ่ง เราต้องเตรียมตัวเองให้พร้อม อย่าลืมถามตัวเราก่อนว่าพร้อมดูแลเขาไปทั้งชีวิตหรือไม่ เพราะการเลี้ยงสุนัขเราต้องดูแลเขาไปจนถึงวันสุดท้ายของชีวิต เพราะแบบนั้นเราจึงต้องตั้งใจจริงและดูแลเขาด้วยความรัก อย่างที่สุนัขเองก็มอบความรักให้กับเราเช่นกัน

ลูกสุนัขวัยกำลังซน ต้องดูแลเรื่องอะไรบ้าง?

1. เลือกชนิดของนมให้ถูกต้อง

หากเป็นไปได้ ควรเลือกนมทดแทนสำหรับลูกสุนัขโดยเฉพาะ ซึ่งสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายของสำหรับสัตว์เลี้ยงต่างๆ แต่ถ้าไม่สามารถหาได้จริงๆ ให้เลือกเป็นนมแพะแทน ส่วนนมที่ห้ามให้ลูกสุนัขกินเด็ดขาดเลย คือ นมวัว นมผงสำหรับเด็ก นมกล่องทุกชนิด และนมข้นหวานแบบต่างๆ การให้นมที่ไม่ถูกต้องจะทำให้ลูกสุนัขท้องเสีย ได้รับสารอาหารไม่เหมาะสม จนทำให้ร่างกายอ่อนแอและเสียชีวิตได้

2. เตรียมนมให้พร้อมก่อนป้อน

ลูกสุนัขแต่ละช่วงอายุต้องการนมในปริมาณที่แตกต่างกัน ดังนี้

– ลูกสุนัข อายุประมาณ 1 อาทิตย์ ต้องการนม 13 ซีซี ต่อวัน

– ลูกสุนัข อายุประมาณ 2 อาทิตย์ ต้องการนม 17 ซีซี ต่อวัน

– ลูกสุนัข อายุประมาณ 3 อาทิตย์ ต้องการนม 20 ซีซี/น้ำหนักตัว 100 กรัม ต่อวัน

– ลูกสุนัข อายุประมาณ 4 อาทิตย์ ต้องการนม 22 ซีซี/น้ำหนักตัว 100 กรัม ต่อวัน

โดยก่อนป้อนนมเราต้องอุ่นนมก่อนทุกครั้ง หากให้ลูกสุนัขกินนมเย็นจะทำให้ท้องเสียได้ น้ำนมที่ให้ควรมีอุณหภูมิประมาณ 35-37.8 องศาเซลเซียส และควรให้นมจากขวดนมสำหรับสุนัขเท่านั้นเพราะจุกของขวดนมทำมามีขนาดพอดีกับปากลูกสุนัขที่ไม่ใหญ่มาก หากใช้ขวดนมเด็กจะทำให้จุกมีขนาดใหญ่เกินไปสำหรับลูกสุนัขได้

3. วิธีการป้อนนมลูกสุนัข

เริ่มต้นโดยจัดท่าลูกสุนัขให้ถูกต้อง ห้ามให้ลูกสุนัขนอนหงายเด็ดขาด ควรให้ลูกสุนัขนอนคว่ำแล้วหนุนบริเวณหัวให้สูงกว่าลำตัว แล้วให้ลูกสุนัขกินนมจากขวดนม วิธีนี้จะทำให้ลูกสุนัขกินนมง่ายได้มากที่สุด หลังให้นมแล้วสิ่งที่ต้องทำคือเช็กดูว่าท้องของลูกสุนัขขยายขนาดใหญ่เกินไปหรือไม่ ถ้าท้องขยายมากไปอาจแสดงว่าลูกสุนัขท้องอืด ควรพาไปพบสัตวแพทย์ ส่วนความถี่ของการให้นมลูกสุนัขนั้นขึ้นอยู่กับช่วงอายุ ยิ่งลูกสุนัขอายุน้อยยิ่งต้องให้นมบ่อยขึ้น ดังนี้

– ลูกหมาที่อายุประมาณ 2-3 วัน ต้องป้อนนมทุกๆ 2 ชั่วโมง

– ลูกหมาที่อายุประมาณ 4-7 วัน ต้องปอ้นนมทุกๆ 3 ชั่วโมง

– ลูกหมาที่อายุประมาณ 2 สัปดาห์ ต้องป้อนนมทุกๆ 4 ชั่วโมง

– ลูกหมาที่อายุประมาณ 3 สัปดาห์ขึ้นไป ต้องป้อนนม วันละ 4-5 ครั้ง

4. เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการหย่านม

ปกติแล้วลูกสุนัขจะหย่านมตอนอายุประมาณ 8 สัปดาห์ แต่ประมาณอายุ 6 สัปดาห์เราอาจจะเริ่มแนะนำอาหารเม็ดให้สุนัขได้ลองฝึกทานดูได้ โดยเริ่มต้นจากเอาอาหารเม็ดแช่น้ำอุ่นจนนิ่มหรือแช่นมแล้วให้ลูกสุนัขกินทีละน้อย แต่เนื่องจากร่างกายของลูกสุนัขช่วงนี้กำลังอยู่ในช่วงการเจริญเติบโต จึงต้องเลือกอาหารเม็ดที่มีคุณภาพและสารอาหารครบถ้วน ให้ลูกสุนัขของคุณได้รับประสบการณ์การกินอาหารเม็ดด้วย SUPERCOAT® (ซุปเปอร์โค้ท®) สูตรลูกสุนัข ที่ทำมาเพื่อลูกสุนัขโดยเฉพาะ

5. ฝึกให้เริ่มกินอาหารเม็ด

น้องหมาวัยกำลังซนส่วนมากจะมีอายุที่ประมาณ 7 สัปดาห์ขึ้นไป ซึ่งช่วงวัยนี้ยังเป็นช่วงที่ยังไม่หย่านมแม่ แนะนำว่า ควรฝึกให้น้องหมากินอาหารเม็ดเพื่อที่จะให้เค้าเคยชิน กินอาหารเม็ดได้แบบไม่มีปัญหาในตอนโต ซึ่งการให้อาหารเม็ดสำเร็จรูปนั้นดีต่อสุขภาพของน้องหมาเพราะพวกเค้าจะได้รับสารอาหารที่เหมาะต่อการเจริญเติบโต และการให้อาหารเม็ดก็ยังช่วยให้เราสามารถควบคุมปริมาณความต้องการที่เหมาะสมในแต่ละมื้ออาหารของน้องหมาได้ด้วย

โดยอาจจะเริ่มจากวิธีง่าย ๆ คือ ให้อาหารเม็ดสำเร็จรูปสูตรสำหรับลูกสุนัขผสมกับนมแพะรสจืด จนกระทั่งอายุประมาณ 10-12 สัปดาห์ ซึ่งเป็นช่วงที่ลูกสุนัขเริ่มหย่านมแล้ว อาจจะเริ่มปรับสูตรอาหารเม็ดให้ลูกสุนัขด้วยการนำอาหารเม็ดมาผสมกับไข่ต้ม(เอาเฉพาะไข่แดง) และนมแพะรสจืด โดยให้กินในปริมาณไม่ต้องมากนักวันละ 3-4 มื้อ เนื่องจากลูกสุนัขวัยนี้จะใช้พลังงานเยอะ กินเก่ง อยู่ในช่วงกำลังเจริญเติบโต หรือทางที่ดีอาจจะปรึกษาสัตวแพทย์ใกล้บ้านเพื่อขอคำแนะนำเรื่องโภชนาการอาหารที่เหมาะสมสำหรับลูกสุนัขแต่ละตัวก็ได้

6. ระวังอุบัติเหตุ

ลูกสุนัขอายุ 2-4 เดือนเป็นช่วงที่กำลังซนมาก ๆ จะกัดแทะสิ่งของต่าง ๆ เนื่องจากฟันกำลังขึ้น ทำให้พวกเค้ารู้สึกคันฟัน ชอบกัดแทะสิ่งของต่าง ๆ เช่น รองเท้า กัดมือ งับเท้าเจ้าของ หรือบางตัวก็อาจจะคาบสิ่งของต่าง ๆ มากัดเล่น ทำให้ต้องระวังเก็บข้าวของให้มิดชิดเพราะน้องหมาอาจจะเอาสิ่งของต้องห้าม เช่น หลอดยาสีฟัน สารเคมี หรือสิ่งของที่มีความแหลมคม มากัดแทะจนเป็นอันตรายต่อสุขภาพของพวกเค้าได้

รวมถึงควรระมัดระวังอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นจากความซุกซน เช่น สิ่งของหล่นทับ วิ่งตกบันได ตัวติด วิ่งตกท่อ หรือวิ่งเล่นซนจนเกิดอุบัติเหตุรถชนได้จึงต้องคอยระมัดระวังให้ลูกสุนัขอยู่ในสายตาอย่างใกล้ชิด แนะนำให้ทำรั้วรอบขอบชิดเพื่อป้องกันอันตรายจะดีที่สุดนะ

นอกจากนี้แล้วน้องหมาเด็กเป็นวัยที่กำลังอยากเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ รอบตัว อยากทักทายกับผู้คนแปลกหน้า รวมถึงผูกมิตรกับน้องหมาตัวอื่น ๆ ซึ่งถ้าหากน้องหมาตัวอื่นมีนิสัยดุ ตัวใหญ่กว่าก็อาจจะเป็นอันตรายกับลูกสุนัข อาจะถูกกัดได้ ดังนั้น การให้ลูกสุนัขทำความรู้จักกับน้องหมาตัวอื่น ๆ ควรดูนิสัยน้องหมาที่จะพาเข้าหาเพื่อความปลอดภัย ป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายที่ไม่คาดคิดได้

7. พาพบคุณหมอ

น้องหมาวัยกำลังซุกซนที่ขาดไม่ได้คือการพาไปพบคุณหมอเพื่อทำวัคซีนป้องกันโรคที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งลูกสุนัขควรได้รับการฉีดวัคซีนเข็มแรกเมื่ออายุ 6-8 สัปดาห์ขึ้นไป ไม่ควรพาน้องหมาที่อายุน้อยกว่านี้ไปทำวัคซีน เนื่องจากการเร่งฉีดวัคซีนให้น้องหมาเร็วเกินไป ระบบภูมิคุ้นกันของพวกเค้ายังทำงานไม่สมบูรณ์ การสร้างภูมิคุ้มกันจากวัคซีนจึงไม่สามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ และในช่วงอายุนี้ลูกสุนัขยังมีภูมิคุ้มกันที่ได้รับจากแม่สุนัขผ่านนมน้ำเหลืองที่ลูกสุนัขกินเข้าไปเมื่อ 24 ชั่วโมงแรกหลังคลอดอยู่แล้ว ดังนั้น รอให้น้องหมาอายุ 6-8 สัปดาห์ขึ้นไปจะดีที่สุดนะ

8. ฝึกเข้าสังคม พบปะผู้คน

น้องหมาที่มีอายุตั้งแต่ 6 สัปดาห์ขึ้นไปจะเริ่มมีความซุกซน อยากรู้จักผู้คนและสัตว์เลี้ยงตัวอื่น ๆ ช่วงวัยนี้จึงเหมาะมาก ๆ ที่จะพาเค้าไปเริ่มต้นทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ แนะนำว่า ให้ฉีดวัคซีนให้กับลูกสุนัขก่อนแล้วค่อยพาไปทำความรู้จักกับผู้คนและสัตว์เลี้ยงที่มีนิสัยเป็นมิตร

การดูแลสุขภาพลูกสุนัข

ลูกหมาวัยซนดูแลยังไง

1. ฉีดวัคซีนและถ่ายพยาธิ

สิ่งที่สำคัญที่สุดของการดูแลสุขภาพลูกสุนัขคือการพาไปฉีดวัคซีนและถ่ายพยาธิตามกำหนด ในปัจจุบันเราสามารถพาลูกสุนัขไปพบสัตวแพทย์เพื่อฉีดวัคซีนได้ตั้งแต่อายุ 6 สัปดาห์ขึ้นไป โดยคุณหมอจะเลือกโปรแกรมวัคซีนที่เหมาะสม และอย่าลืมไปตามนัดให้ได้ทุกครั้ง และไม่ควรฉีดวัคซีนเร็วกว่า 6 สัปดาห์ เพราะจะทำให้วัคซีนไม่ได้ผลและอาจส่งผลข้างเคียงต่อลูกสุนัขได้

2. เช็กน้ำหนักตัวลูกสุนัขอยู่เสมอ

ควรชั่งน้ำหนักตัวลูกสุนัขทุกวัน เพราะในช่วง 2–3 เดือนแรก ลูกสุนัขจะมีการเจริญเติบโตที่เร็วมาก น้ำหนักของลูกสุนัขควรเพิ่มขึ้นทุกวัน หากเช็กแล้วพบว่าลูกสุนัขน้ำหนักลดลง ให้ดูว่าลูกสุนัขได้รับอาหารเพียงพอหรือไม่ หากมีอาการเบื่ออาหารและซึมร่วมด้วยให้พาไปพบสัตวแพทย์เพื่อวินิจฉัยต่อไป

3. ระวังเรื่องร้อนหรือหนาวเกินไป

ในช่วง 1 เดือนแรก ร่างกายของลูกสุนัขยังปรับอุณหภูมิได้ไม่ดี ดังนั้นเราจึงต้องหมั่นตรวจว่าอุณหภูมิสิ่งแวดล้อมและในที่นอนเหมาะสมแล้วหรือไม่ อุณหภูมิที่ดีที่สุดคืออุ่นนิดๆ ประมาณที่เราใส่เสื้อยืดโดยไม่ร้อน หรือสังเกตอาการของลูกสุนัขก็ได้ ถ้าลูกสุนัขตัวสั่นแสดงว่ากำลังหนาว แต่ถ้าหูและลิ้นแดงขึ้นแสดงว่ากำลังร้อนเกินไป

4. ท้องเสียหรือถ่ายเหลว

อาการท้องเสียในลูกสุนัขถือเป็นเรื่องใหญ่ที่เราต้องให้ความสำคัญมากๆ หากพบว่าลูกสุนัขท้องเสีย ถ่ายเหลวเป็นน้ำ มีกลิ่นเหม็น หรือมีมูกเลือดปน ให้รีบพาไปพบสัตวแพทย์ทันทีเพราะมีโอกาสที่ลูกสุนัขอาจจะติดเชื้อไวรัส มีพยาธิ หรือแพ้อาหารต่างๆ ได้ โดยเราต้องให้สัตวแพทย์เป็นผู้ตรวจและวินิจฉัยอย่างละเอียดอีกที ปัญหาท้องเสียในลูกสุนัขนั้นไม่ควรประมาทเพราะลูกสุนัขอาจจะเสียชีวิตได้เลย

การดูแลสุขอนามัยลูกสุนัข

1. ดูแลเรื่องการขับถ่ายให้ลูกสุนัข

ลูกสุนัขเกิดใหม่จะไม่สามารถขับถ่ายเองได้ โดยปกติแล้วแม่สุนัขจะช่วยเลียบริเวณก้นของลูกสุนัขเพื่อช่วยกระตุ้นการขับถ่าย แต่ในกรณีที่เราต้องดูแลเอง เจ้าของต้องช่วยเช็ดบริเวณก้นของลูกสุนัขก่อนและหลังให้อาหารทุกครั้งด้วยผ้าเนื้อนุ่มชุบน้ำอุ่นหมาดๆ เพื่อช่วยให้ลูกสุนัขขับถ่าย

2. ในช่วงแรกสุนัขยังไม่ลืมตาและหูไม่ได้ยิน

หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่าลูกสุนัขเมื่อแรกเกิดนั้นจะยังไม่ได้ยินเสียงและมองเห็นเพราะประสาทตาและหูยังทำงานไม่ได้เต็มที่ โดยลูกสุนัขจะเริ่มมองเห็นได้ตอนอายุ 12-14 วัน ส่วนหูจะเริ่มได้ยิน เมื่ออายุได้ 20 วัน ดังนั้นในช่วง 20 วันแรกเราต้องคอยเฝ้าดูลูกสุนัขเป็นพิเศษเพราะช่วงนี้เขาจะยังช่วยเหลือตัวเองไม่ค่อยได้ อาจจะคลานปีนป่ายจนตกหรือถูกทับจากของต่างๆ ได้

3. กินและนอนตลอดทั้งวันไม่ใช่ปัญหา

เชื่อไหมว่าลูกสุนัขอาจจะนอนได้วันละ 18-20 ชั่วโมงเลยทีเดียว โดยเฉพาะช่วง 1 เดือนแรก ลูกสุนัขนอนหลับนานแบบนี้ถือว่าเป็นเรื่องปกติเพราะในระหว่างที่นอนร่างกายของพวกเขาจะพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ดังนั้นเจ้าของไม่ต้องกังวลไปถ้าพบว่าลูกสุนัขนอนตลอดทั้งวัน ตื่นมาเพียงแค่ตอนกินเท่านั้น เพราะว่านั่นเป็นเรื่องปกตินั่นเอง

4. จับนิดแตะหน่อย ช่วยเสริมสายสัมพันธ์ระหว่างกันได้

เมื่อลูกสุนัขเริ่มโตขึ้นก็จะเริ่มมีพัฒนาการทางด้านสังคม อาจจะเริ่มตั้งแต่อายุ 6-8 สัปดาห์ ในช่วงนี้ให้เราสัมผัสหรือเล่นเบาๆ กับลูกสุนัขจะช่วยเสริมสายสัมพันธ์ระหว่างเรากับสุนัขให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น และช่วยในการพัฒนาการทางด้านสังคมของลูกสุนัขอีกด้วย

5. สอนคำสั่งง่ายๆ ให้กับลูกสุนัข

เมื่อลูกสุนัขอายุได้ประมาณ 6-8 สัปดาห์ ให้ลองฝึกคำสั่งง่ายๆ เช่น การขับถ่ายเป็นที่ เรียกชื่อแล้วหัน ฝึกให้นั่งและคอย การฝึกตอนที่ยังเป็นลูกสุนัขจะฝึกได้ง่ายกว่าและทำให้สุนัขค่อยๆ ปรับตัวกับสังคมของมนุษย์ได้ง่ายมากยิ่งขึ้น

ลูกหมาวัยซน

ซึ่งการพบปะในครั้งแรกจะช่วยให้เค้าได้รู้จักปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมและรู้จักการผูกมิตร เข้าสังคม แนะนำว่า ค่อย ๆ ให้น้องหมาทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ ไม่ควรทำให้เกิดความหวาดกลัวเพื่อให้เค้ามีประสบการณ์ที่ดี มีความมั่นใจ จะช่วยทำให้น้องหมามีอารมณ์ดี ไม่เกิดปัญหาด้านพฤติกรรมในอนาคต

วิธีเลือก ไดร์เป่าขนสุนัข

วิธีเลือก ไดร์เป่าขนสุนัข

วิธีเลือก ไดร์เป่าขนสุนัข สารบัญวิธีเลือก ไดร์เป่าขนสุนัขวิธีเลือกไดร์เป่าขนสำหรับสัตว์เลี้ยง1. ความเร็วของไดร์เป่าขน2. ความร้อนของไดร์เป่าขน3. ใช้งานง่าย4. อุปกรณ์เสริมไดร์เป่าผมของคน VS ไดร์เป่าขนสัตว์เลี้ยง แตกต่างกันอย่างไร...

read more

ประวัติสายพันธุ์ สุนัขเก็บเหยื่อ

ประวัติสายพันธุ์ สุนัขเก็บเหยื่อ สารบัญประวัติสายพันธุ์ สุนัขเก็บเหยื่อประวัติสายพันธุ์ลักษณะนิสัย สุนัขเก็บเหยื่อ หรือ รีทรีฟเวอร์ (อังกฤษ: Retriever) เป็นประเภทของสุนัข (Dog type) ที่เรียกว่าสุนัขล่าเหยื่อที่มีหน้าที่ไปเก็บเหยื่อที่นักล่าสัตว์ล่าได้...

read more
สาเหตุที่ทำให้สุนัขฉี่เป็นเลือด

สาเหตุที่ทำให้สุนัขฉี่เป็นเลือด

สาเหตุที่ทำให้สุนัขฉี่เป็นเลือด สารบัญสาเหตุที่ทำให้สุนัขฉี่เป็นเลือดปัญหาฉี่เป็นเลือดหรือฉี่ปนเลือด  (Hematuria)อาการสำคัญที่เจ้าของต้องสังเกตสาเหตุเป็นอะไรได้บ้าง1. มีสาเหตุจากทางเดินปัสสาวะส่วนบนไตติดเชื้อนิ่วในไตปัญหาจากไตมะเร็งในไต2....

read more
สุนัขห้ามกินอะไรบ้าง 25 อย่าง

สุนัขห้ามกินอะไรบ้าง 25 อย่าง

สุนัขห้ามกินอะไรบ้าง 25 อย่าง สารบัญสุนัขห้ามกินอะไรบ้าง 25 อย่างทำไมสุนัขไม่ควรรับประทานอาหารเหล่านี้1. ช็อกโกแลต 2. องุ่นและลูกเกด 3. หัวหอมและกระเทียม 4. นมวัว เนย เนยแข็ง และผลิตภัณฑ์จากนมวัวทุกชนิด 5. เบคอนและไส้กรอก 6. ตับย่างและเครื่องในย่าง 7....

read more
ยาถ่ายพยาธิสุนัข ควรใช้เมื่อสุนัขมีอาการดังนี้

ยาถ่ายพยาธิสุนัข ควรใช้เมื่อสุนัขมีอาการดังนี้

ยาถ่ายพยาธิสุนัข ควรใช้เมื่อสุนัขมีอาการดังนี้ สารบัญยาถ่ายพยาธิสุนัข...

read more
สุนัขไอแห้งวิธีรักษา

สุนัขไอแห้งวิธีรักษา

สุนัขไอแห้งวิธีรักษา สารบัญสุนัขไอแห้งวิธีรักษาการไอเหมือนมีอะไรติดคอสาเหตุที่ทำให้สุนัขไอแบบมีเสมหะโรคหลอดลมฝอยอักเสบเรื้อรัง (Chronic bronchitis)การวินิจฉัย การรักษา การรักษาทางยา โรคหลอดลมตีบ (tracheal...

read more
ทรายเต้าหู้แมว ทำมาจากเต้าหู้รึปล่าว

ทรายเต้าหู้แมว ทำมาจากเต้าหู้รึปล่าว

ทรายเต้าหู้แมว ทำมาจากเต้าหู้รึปล่าว สารบัญทรายเต้าหู้แมว ทำมาจากเต้าหู้รึปล่าวทรายแมวเต้าหู้ คืออะไร ?ทรายแมวแบบเต้าหู้ มีคุณสมบัติอย่างไรวิธีการเลือกทรายแมวเต้าหู้1. กลิ่นของทรายแมว2. เช็กให้ดีว่าสามารถทิ้งลงชักโครกได้หรือไม่ ?3. คุณสมบัติในการดูดซับ4....

read more

10 ข้อประโยชน์ของหนวดแมว

10 ข้อประโยชน์ของหนวดแมว สารบัญ10 ข้อประโยชน์ของหนวดแมวหนวดแมวไม่ได้มีไว้แค่ทำให้แมวดูน่ารัก แต่ยังมีประโยชน์ต่อแมวอีกหลายประการ ตั้งแต่ทำหน้าที่เป็นเครื่องวัดระยะ ไปจนช่วยเรื่องการมองระยะใกล้ หนวดเป็นอวัยวะที่น่าทึ่งโดยแท้ทำไมแมวถึงมีหนวด1....

read more
เลี้ยงแมวยังไงให้อยู่กับเราไปนานๆ

เลี้ยงแมวยังไงให้อยู่กับเราไปนานๆ

เลี้ยงแมวยังไงให้อยู่กับเราไปนานๆ สารบัญเลี้ยงแมวยังไงให้อยู่กับเราไปนานๆอายุเฉลี่ยของแมวเลี้ยงแมวอย่างไรให้อายุยืน1. เลือกอาหารการกิน2. ดูแลรูปร่าง3. ทำหมัน4. ทำวัคซีน5. ป้องกันปรสิตอายุของแมวเมื่อนับเป็นปีแบบมนุษย์สัญญาณของความสูงวัยในแมวของคุณอาการของโรคในแมวสูงวัย...

read more
The jungle cat แมวป่านักล่าอันดับ 1 ในป่าใหญ่

The jungle cat แมวป่านักล่าอันดับ 1 ในป่าใหญ่

The jungle cat แมวป่านักล่าอันดับ 1 ในป่าใหญ่ สารบัญThe jungle cat แมวป่านักล่าอันดับ 1 ในป่าใหญ่รูปลักษณ์อุปนิสัยถิ่นที่อยู่อาศัยชีววิทยาภัยที่คุกคามสถานภาพสถานภาพการคุ้มครองประเทศที่ห้ามล่าไม่คุ้มครองนอกพื้นที่อนุรักษ์ มีรูปร่างคล้ายแมวบ้าน...

read more
10 สายพันธุ์แมวที่ทาสมือใหม่ควรรู้

10 สายพันธุ์แมวที่ทาสมือใหม่ควรรู้

10 สายพันธุ์แมวที่ทาสมือใหม่ควรรู้ สารบัญ10 สายพันธุ์แมวที่ทาสมือใหม่ควรรู้สายพันธุ์แมวคืออะไรและมีความสำคัญกับผู้เลี้ยงแมวอย่างไร?ลักษณะพันธุ์แบบใดที่ควรใช้พิจารณาก่อนการรับเลี้ยง?10 สายพันธุ์แมว1. เอ็กโซติกขนสั้น (Exotic Shorthair)2. หางกุดญี่ปุ่น (Japanese...

read more